ก.พ. 23, 2560

กรุงเทพฯ ประเทศไทย - ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโภชนาการเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดต่อพัฒนาการของเด็กๆ อาจารย์เกตุ หรือ ผศ.ดร. พิชญ์วดี กิตติปัญญางาม คือหนึ่งในคุณแม่คนเก่งที่นอกจากจะทำงานเป็นอาจารย์ที่สาขาวิชาบริหารการปฏิบัติการ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และธุรกิจการ์ด Cambridge Babies แล้ว อาจารย์เกตุยังไม่เคยลืมที่จะแบ่งเวลามาดูแลลูกๆทั้งสองคน น้องเกรซ และ น้องเกวน ทั้งด้านอาหารที่เหมาะสม และการเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่าทั้งสองสาวจะเติบโตขึ้นอย่างสุขภาพดีและมีพัฒนาการที่สมวัย แน่นอนว่าเวลาที่ลูกไม่อยู่บ้านพ่อแม่จะไม่สามารถควบคุมอาหารของลูกได้ “เราคุมได้แค่เวลาเราอยู่ในบ้าน พอออกไปนอกบ้าน ไปโรงเรียน เราคุมเขาไม่ได้” แต่เราเริ่มต้นกับมื้ออาหารสุขภาพดีจากมื้อที่บ้านที่เป็นมื้อหลักของเด็กๆได้ อาจารย์เกตุกล่าวเสริมอีกว่า “ตอนแรกจะไม่ให้ทานของทอดเลย รวมทั้งเฟร้นฟรายซ์ด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าน้ำมันที่ใช้ทอดเป็นอย่างไร ไม่รู้ว่าเขานำน้ำมันเก่ากลับมาใช้หรือเปล่า และพออยู่บ้านเราจะพยายามใช้น้ำมันให้น้อยถึงแม้ว่าจะเป็นน้ำมันใหม่ก็ไม่ได้ดีกับเราสักเท่าไหร่ แล้วยังไม่มีงานวิจัยตัวไหนออกมายืนยันว่าน้ำมันชนิดไหนดีกับเราที่สุด เราเลยเน้นทำอาหารทานเองที่บ้าน เพราะเราไม่รู้ว่าข้างนอกเขาทำอะไรบ้าง”

เมื่อกล่าวถึงการทำอาหารกับเด็กๆ แล้ว หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องที่อันตรายและถ้าเป็นไปได้คงเลือกที่จะให้ลูกน้อยอยู่ห่างไกลจากความร้อนและอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในห้องครัว แต่แท้จริงแล้ว  “การทำอาหารช่วยเรื่องพัฒนาการเด็กสองอย่าง หนึ่งคือพัฒนาการทางด้านการเคลื่อนไหวและร่างกายซึ่งคือการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ สองคือพัฒนาการทางด้านอารมณ์ เขาจะมีกิจกรรมที่เขาสามารถทำร่วมกับพ่อแม่ได้อย่างเช่นการทำอาหาร กิจกรรมนี้จะทำให้เขาใจเย็นและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับพ่อแม่ ซึ่งมันช่วยเพราะเดี๋ยวนี้บางทียื่นมือถือให้ก็จบแต่อันนี้คือเราหาอะไรทำด้วยกันทำให้เขารู้สึกว่าเขามีความสามารถและมีความมั่นใจด้วยว่าเขาทำได้นะ มันจะช่วยสร้างความมั่นใจให้เขากล้าทำอะไรใหม่ๆ” อาจารย์เกตุกล่าว หลังจากที่น้องเกรซและน้องเกวนได้ร่วมสนุกสนานกับกิจกรรมที่โรงเรียนสอนอาหาร A Little Something ได้ถ่ายทอดเทคนิคและตั้งคำถามสอดแทรกให้เด็กๆ เพื่อการส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยระหว่างการทำครัวไปด้วยกัน
 

ความมีเวลาจำกัดเพราะมีหน้าที่หลากหลายที่ต้องรับผิดชอบเป็นอุปสรรคในการหาเวลาที่ครอบครัวจะใช้ร่วมกัน ดังนั้นการเลือกตัวช่วยในครัวจึงเป็นสิ่งสำคัญ “สำหรับ Philips Airfryer อีกอย่างที่ชอบคือเครื่องสามารถตั้งเวลาและปล่อยให้เครื่องทำงานเองได้เลย ไม่ต้องมาคอยเฝ้า ทำให้เรามีเวลาว่าง มีเวลาเล่นกับลูกมากขึ้น อุปกรณ์ที่ใช้ง่ายทำให้เด็กๆ รู้สึกว่าเขาสามารถช่วยทำอาหารได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องไปยืนทอดริมน้ำมันร้อนๆ หรือต้องมาคอยห่วง กลัวน้ำมันกระเด็นโดนลูกเรา”

เกี่ยวกับ รอยัล ฟิลิปส์